Part 1 : ทำการศึกษา Syntax ของคำสั่งที่ใช้ในเขียนโปรแกรมดึงข้อมูลมาจากDatabase จาก http://www.w3schools.com/sql/
Database Table : จะอยู่ในรูปแบบของตารางโดยจะประกอบด้วย 1 หรือหลายๆ ตาราง โดยที่แต่ละตารางจะมี identify โดย ชื่อ แต่ละ table จะประกอบด้วย records(rows) และ data
จากภาพ ตารางตัวอย่างจะประกอบด้วย 5 records และ 7 columns
ตัวอย่างข้อมูลที่เลือกมาจาก Customer table |
Database System บางระบบต้องการ semicolon เมื่อจบแต่ละ statement. semicolon จะเป็นวิธีการที่ช่วยแยกแต่ละ SQL statement ในระบบฐานข้อมูลที่มี SQL statement มากกว่าหนึ่ง statement ให้สามารถที่จะทำการเรียกไปยัง server ได้
SQL Select : ใช้เลือกข้อมูลจาก database
ตัวอย่างที่ได้ทดลองใช้ SQL statement เลือก columns จาก Customer table |
ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ SQL statement select จะได้ตารางข้อมูลของ customer ดังภาพ |
ตัวอย่างที่ได้ลอง SQL statement Distinct เลือก column 'City' จาก Customer table |
ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ SQL statement Distinct จะได้ตารางข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่เราใช้ Distinct นั้นก็คือข้อมูลของ column city ดังภาพ |
SQL Where : ใช้ดึงข้อมูลบางข้อมูลจาก Fulfill ของตารางตามข้อกำหนดที่ระบุ
จากตัวอย่างSQL Statement ที่ใช้ :
SELECT * FROM Customers จะเป็นการระบุว่าเลือกข้อมูลจาก Customers table
WHERE Country='Mexico'; จะเป็นการระบุว่าดึงข้อมูลจาก column Country ที่เป็น Mexico
|
ตัวอย่างจากการใช้ SQL statement WHERE จะได้ตารางข้อมูลเฉพาะที่มี Country ที่เป็น Mexico ตามที่ระบุใน statement |
ตัวอย่างจากการใช้ SQL statement WHERE จะได้ตารางข้อมูล เฉพาะที่มี CustomerID ที่เท่ากับ 1 ตามที่ระบุใน statement |
ตัวอย่างจากการใช้ SQL Statement WHERE จะได้ตารางข้อมูล เฉพาะที่มี CustomerID ที่น้อยกว่า 5 ตามที่ระบุใน statement |
เป็น operation ที่สามารถใช้ได้กับ WHERE |
SQL And&Or
AND Operator : จะแสดงข้อมูลถ้าทั้งเงื่อนไขแรกและเงื่อนไขที่สองเป็นจริงทั้งคู่
จากตัวอย่างSQL Statement ที่ใช้ : SELECT * FROM Customers จะเป็นการระบุว่าเลือกข้อมูลจาก Customers table
WHERE Country='Germany'; จะเป็นการระบุว่าดึงข้อมูลจาก column Country ที่เป็น 'Germany'
AND City='Berlin'; และดึงข้อมูลมี City เป็น 'Berlin' |
ตัวอย่างจากการใช้ operation AND จะได้ตารางข้อมูลเฉพาะที่มี Country ที่เป็น 'Germany' และมี City เป็น 'ฺBerlin' ตามที่ระบุใน statement OR operator จะแสดงข้อมูลถ้าเงื่อนไขแรกหรือเงื่อนไขที่สองเป็นจริง |
จากตัวอย่างSQL Statement ที่ใช้ :
SELECT * FROM Customers จะเป็นการระบุว่าเลือกข้อมูลจาก Customers table
WHERE Country='Berlin'; จะเป็นการระบุว่าดึงข้อมูลจาก column Country ที่เป็น 'Berlin'
OR City='London'; หรือดึงข้อมูลมี City เป็น 'London' |
ตัวอย่างจากการใช้ Operation OR จะได้ตารางข้อมูลเฉพาะที่มี Country ที่เป็น 'City' เป็น 'London' ตามที่ระบุใน statement |
จากตัวอย่าง SQL Statement ที่ใช้ :
SELECT * FROM Customers จะเป็นการระบุว่าเลือกข้อมูลจาก Customers table
WHERE Country='Germany'; จะเป็นการระบุว่าดึงข้อมูลจาก column Country ที่เป็น 'Germany'
AND (City='Berlin' OR City='München'); และดึงข้อมูลมี City เป็น 'Berlin' หรือ City เป็น 'München' |
จะได้ตารางข้อมูลเฉพาะที่มี Country ที่เป็น 'Germany'
และมีตัวอย่างจากการใช้ Operation AND ร่วมกับ OR
City เป็น 'Berlin' หรือไม่ก็ 'Munchen' ตามที่ระบุใน statement
|
SQL Order by : ใช้สำหรับ sort ผลลัพธ์
Syntax ในการเขียน
SELECT * FROM Customers จะเป็นการระบุว่าเลือกข้อมูลจาก Customers table
ORDER BY Country; จะเป็นการระบุว่า sort ข้อมูลจาก column Country จะ sort ข้อมูลทั้งตารางแต่อ้างอิงจากการเรียงตามลำดับของ column Country เช่นจากการทดลอง ใน column Country เมื่อ sort แล้วจะเรียงจาก A-Z
|
ตัวอย่างที่ได้ลอง Order By เลือกข้อมูลจาก Customer table และ sort column Country |
ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้ตารางข้อมูลจะมี การเรียงลำดับของข้อมูลตามการ sort ใน column Country ดังภาพ |
Syntax ในการเขียนแบบ ORDER BY Country DESC; จะเป็นการระบุว่า sort ข้อมูลจาก column Country จะ sort ข้อมูลทั้งตารางแต่อ้างอิงจากการเรียงตามลำดับของ column Country และมี DESC เมื่อ sort แล้วจะเรียงจาก Z-A |
ตัวอย่างที่ได้ลอง Order By เลือกข้อมูลจาก Customer table และ sort แบบมี DESC ใน column Country |
ผลลัพธ์ที่ได้ตารางข้อมูลจะมี การเรียงลำดับของข้อมูลตามการ sort ข้อมูลใน column Country ดังภาพ |
Syntax ในการเขียนแบบ
ORDER BY Country , CustomerName; จะเป็นการระบุว่า sort ข้อมูลจาก column Country จะ sort ข้อมูลทั้งตารางแต่อ้างอิงจากการเรียงตามลำดับของ column Country และมีการ sort ข้อมูลใน column CustomerName ด้วย
|
ตัวอย่างที่ได้ลอง Order By เลือกข้อมูลจาก Customer table sort ข้อมูลใน column Country และ sort ใน column CustomerName |
ผลลัพธ์ที่ได้ตารางข้อมูลจะมีการเรียงลำดับของข้อมูลตามการ sort ใน column Country และ sort ใน column CustomerNameดังภาพ |
Syntax ในการเขียนแบบ
|
ตัวอย่างที่ได้ลอง Order By เลือกข้อมูลจาก Customer table sort ข้อมูลใน column Country แบบ ASC และใน column CustomerName แบบ DESC |
ผลลัพธ์ที่ได้ตารางข้อมูลจะมี การ sort ข้อมูลใน column Country แบบ A-Zและ sort ใน column CustomerName แบบ Z-A ดังภาพ |
Syntax ในการเขียนมีสองแบบ
|
ตัวอย่างที่ได้ทดลองทำการ insert ข้อมูลลงไปใน table โดยมีการระบุ column name และ value ที่ต้องการ insert |
ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีข้อมูลเพิ่มเข้ามาและ ข้อมูลมีลักษณะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ตอน insert |
SQL Update : เป็น statement ที่ใช้สำหรับ update records ในตาราง
Syntax ในการเขียน UPDATE table_name ระบุว่าจะ update ข้อมูลใน table ชื่อว่าอะไร SET column1=value1,column2=value2,... ระบุชื่อ column และ ค่าของcolumnที่ต้องการ update WHERE some_column=some_value; ระบุว่าจะ update ข้อมูลใน column ใดโดย column นี้จะเป็น column ของ records เดียวกับที่ระบุไปตอนใช้ SET และจากนั้นกำหนดค่าที่ต้องการ update ลงไป |
ภาพตัวอย่างข้อมูลก่อนทำการ update |
ตัวอย่างที่ได้ทดลองทำการ update ข้อมูลลงไปใน table |
ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีข้อมูลของ ContactName ที่มีชื่อ Alfred Schmidt และ มี City เป็น Hamburg ก็จะมีการเปลี่ยน CustomerName เป็น Alfreds Futterkite ตามที่ทำการ update แบบในภาพด้านบน |
Syntax ในการเขียน DELETE FROM table_name ระบุ table ที่เราจะทำการลบ records ในนั้น WHERE some_column=some_value; ระบุชื่อ column และค่าใน column ที่ต้องการลบออก (เป็นการลบ rows ใน table) |
ตัวอย่างที่ได้ทดลองทำการ delete ข้อมูลใน table name ที่ระบุ และที่มี CustomerName เท่ากับ 'Alfreds Futterkiste' และ มี ContactName เท่ากับ 'Maria Ander' |
อ้างอิงที่มาจาก : http://www.w3schools.com/sql/
Part 2 : TRY DBMS ?
ใช้โปรแกรม AppServ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รวบรวมเอา Opensource หลายอย่างมารวมกันเพื่อลดขั้นตอนการติดตั้งทำให้การติดตั้งโปรแกรมต่างๆง่ายขึ้น โดยหลักๆประกอบด้วย Package ดังต่อไปนี้
Apach ,PHP,MySQL,phpMyAdmin
ดาวโหลดโปรแกรมจาก : http://sourceforge.net/projects/appserv/?source=typ_redirect
ขั้นตอนการติดตั้ง
หลังจาก Download ก็ทำการ install AppServ |
ข้อตกลง กด I agree |
เลือก ไดร์ฟที่ต้องการจัดเก็บโปรแกรมไว้ |
เลือกทั้ง 4 แล้วกด next |
กด OK |
ตั้งรหัศผ่าน |
กรอก email ของเรา |
รอการติดตั้ง |
ทำการ install เสร็จแล้ว |
ใช้ phpMyAdmin Database |
ทำการตั้ง username รหัศผ่าน และ กำหนดภาษา |
หน้าตาของ phpMyAdmin |
ทำการ โหลดข้อมูลที่เป็น classic model เพื่อมาใช้ในการทดลอง Query |
เมื่อโหลดแล้วจะได้ Database ที่มีชื่อ classic model |
Structure ของ classic model แสดงจำนวน table ชื่อของ table และข้อมูลอื่นๆ ของ table ดังภาพ |
ทดลอง SELECT ข้อมูลใน table ชื่อ customer ออกมาดู |
ตัวอย่างข้อมูลที่ได้จากการ SELECT |
ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : http://purinutzaba.blogspot.com/2014/02/appserv.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น